วันเสาร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2551

SCAN VIRUS ไหนดี

ป้องกันไวรัสฟรี ดีจริงป่ะ
ในส่วนของโปรแกรมฟรีๆ คุณสามารถหาได้จากเว็บ download.com ซึ่งจะเป็นที่รวบรวมโปรแกรมทั้งฟรีและไม่ฟรีมาให้ได้ใช้กัน โดยในหมวดของโปรแกรมป้องกันไวรัสหาแบบรวมๆ ได้ที่ www.download.com ที่นี้เรามาดูว่ามีโปรแกรมอะไรน่าสนใจบ้าง

ThreatFire AntiVirus Free Edition 3 โปรแกรมน้องใหม่มาแรงจากค่าย PC Tools ที่กำลังได้รับความนิยมจากทั้งผู้ใช้ทั่วไปและนักทดสอบ ด้วยประสิทธิภาพในการทำงานที่ดี สามารถตรวจจับไวรัส, หนอนอินเตอร์เน็ต โทรจัน, รูทคิต, สปายแวร์, แอดแวร์, บัฟเฟอร์โอเวอร์โฟว์ และ มัลแวร์ ได้ โดยในโปรแกรมเวอร์ชันฟรีจะติดต่อกับทางผู้ผลิตในกรณีที่เกิดปัญหาผ่านทางอีเมล์เท่านั้น และไม่สามารถอัพเกรดเอนจี้ของโปรแกรมได้ หากจ่ายเงิน 14.95 เหรียญสหรัฐฯ เพื่ออัพเกรดเป็นเวอร์ชั่นเป็น Pro คุณจะสามารถโทรคุยและแชตกับฝ่าย Technical Support ได้ รวมไปถึงการได้ฟังก์ชันการใช้งานขั้นสูงของโปรแกรม จุดที่สำคัญหากคิดจะใช้โปรแกรมนี้คือ เครื่องคุณจะต้องแรงพอ เนื่องจากโปรแกรมค่อนข้างจะดึงเครื่องพอสมควร

PC Tools Antivirus Free Edition จากการโหวตของเว็บไซต์ download.com โปรแกรมนี้น่าจะเป็นโปรแกรมป้องกันไวรัสฟรีที่น่าสนใจมากในตอนนี้ เพราะสามารถตรวจสอบไวรัสได้แบบเรียลไทม์ รวมไปถึงความสามารถในการสแกนไฟล์อินเทอร์เน็ต อีเมล์ มีอินเทอร์เฟซในการใช้งานที่ไม่ยุ่งยาก หากเพิ่มเงิน 29.95 เหรียญสหรัฐฯ คุณสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้ตลอด 24 ชั่วโมง และยังได้รับระบบการอัพเดตข้อมูลไวรัสที่รวดเร็วมากขึ้น

Avira AntiVir Personal Edition Classic โปรแกรมสัญลักษณ์ร่มแดงนี้ถูกออกแบบมาให้ใช้งนได้ง่ายและฟรี ซึ่งถูกใจหลายๆ คนมีระบบการป้องกันไวรัสที่ดี อัพเดทข้อมูลไวรัส เอนจี้ และข้อมูลโปรแกรมใหม่ๆ แบบอัตโนมัติ อีกทั้งยังมีการมอนิเตอร์ระบบแบบเรียลไทม์ ตั้งแต่ข้อมูลเริ่มเข้ามาในเครื่อง ใช้เทคโนโลยีการกำจัดไวรัสที่ทันสมัย ไม่กั๊กสำหรับใช้ในเวอร์ชั่นจ่ายตังค์เหมือนค่ายอื่นๆ นอกจากนี้ผู้ใช้สามารถตั้งตารางการสแกนและการอัพเดตโปรแกรมได้เอง พร้อมบริการสอบถามข้อมูลและปัญหาผ่านเว็บไซต์และเว็บบอร์ด

Avast Home Edition โปรแกรมป้องกันไวรัสที่ได้รับการรับรองจาก ICSA Lab และ Checkmark แม้ว่าหน้าตาอินเตอร์เฟซจะแปลกๆ คล้ายโปรแกรม Winamp แต่ก็ดูทันสมัยดี สามารถตรวจสอบอีเมล์ เน็ตเวิร์ก ไฟล์ แบบ P2P ละไฟล์วอลล์เล็กๆ แถมให้ด้วย

AVG Antivirus Free Edition โปรแกรมป้องกันไวรัสที่ได้รับความนิยมสูงสุด ด้วยยอดดาวโหลดใน download.com สูงถึง 61 ล้านครั้ง และได้รับรางวัลจากสถาบันต่างๆ มากมาย ด้วยโปนแกรมที่มีขนาดเล็กติดตั้งง่าย ใช้งานไม่ยาก ทำงานได้เร็ว การอัพเดตข้อมูลไวรัสก็รวดเร็วและมรประสิทธิภาพในการทำงานที่ดี จึงไม่แปลกใจที่โปรแกรมนี้จะได้รับความนิยมมากขนาดนี้ ของไม่ฟรี มีดีต่างหาก เมื่อดูของฟรีกันไปแล้ว คราวนี้มาดูโปรแกรมป้องกันไวรัสแบบที่เสียเงินกันบ้าง ว่ามีโปรแกรมอะไรบ้าง และแต่ละโปรแกรมมีจุดเด่นอย่างไร

Norton AntiVirus โปรแกรม ป้องกันไวรัสตัวนี้มีคุณสมบัติในการจัดการกับ adware และ Spyware ซึ่งสามารถตรวจเจอและลบทิ้งก่อนที่มันจะถูกติดตั้งลงในเครื่องของคุณ ส่วนการสแกนจับไวรัสสามารถทำได้ตั้งแต่หลังเปิดเครื่องทันที สามารถสแกนตรวจสอบไฟล์ที่แนบมากับอีเมล์ทั้งขาเขาและขาออก นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจจับและลบโปรแกรมมอนิเตอร์ที่แอบเข้ามาฝังตัว รวมทั้งโปรแกรมเก็บค่าการกดคีย์ที่แฝงอยู่ในเครื่องได้และรองรับการทำงาน ร่วมกับโปรแกรม Instant Messenger อย่าง MSN, AOL, Yahoo และ Windows messeger การป้องกันไวรัสที่แน่นหนานี้ต้องแลกกับการบริโภคทรัพยากรเครื่องที่สูงพอควร และระยะเวลาการติดตั้งที่นานพอสมควร

Kaspersky Anti-Virus โปรแกรม ตัวนี้กินทรัพยากรระบบน้อย อัพเดตโปรแกรมและฐานข้อมูลไวรัสรวดเร็ว มีระบบสแกนไวรัสที่มาจากอีเมล์ ซึ่งสามารถทำงานได้กับทุกๆ โปรแกรม โดยจะใช้การตรวจสอบจากโพรโตคอล HTTP ที่มีประสิทธิภาพความเร็วสูง จุดเด่นของ Kaspersky คือ เทคโนโลยีที่ใช้สแกนไวรัสและกระบวนการอื่นๆ มีความรวดเร็วเป็นพิเศษ ทำให้โอกาสในการปกป้องพีซีมีสูงขึ้น รวมทั้งการอัพเคตที่ใช้เวลาเพียงสั้นๆ เพราะแต่ละไฟล์จะมีขนาดประมาณ 10 กิโลไบต์เท่านั้น และยังมีคุณสมบัติในการมอนิเตอร์ไปยังระบบไฟล์หลักๆ ของวินโดวส์ ทั้งรีจิสทรี และ โพรเซสที่รันอยู่ ซึ่งหากพบว่ามีโพรเซสหนือโปรแกรมแปลกปลอม เช่น รูตคิต ก็ตรวจพบในทันที และยังสามารถ Restore ให้ระบบกลับคืนมาเหมือนเดิมได้อีกด้วย

PC-cillin โปรแกรมป้องกันไวรัสที่คุ้นชื่อมานาน มีความสามารถด้านการระบบป้องกันและจัดการกับแอดแวร์ และ สปายแวร์เต็มรูปแบบ สามารถตรวจหาและสั่งลบไวรัส ที่มากับ อีเมล์, ไฟล์ดาวน์โหลดจากเน็ต, สื่อบันทึกข้อมูลต่างๆ ซึ่งจะทำงานอยู่เบื้องหลัง และแจ้งรายงายขึ้นมาทันทีถ้าพบความผิดปกติ รวมทั้งหยุดการทำงานของไวรัสที่เป็นอันตรายต่อระบบได้ทันที โปรแกรมเวอร์ชันใหม่ๆ ได้เพิ่มความสามารถด้านตรวจจับฟิชชิ่ง นอกจากนี้ยังมีระบบ URL Filtering, Anti-spam และยังสั่งบล็อกสปายแวร์ และเกรย์แวร์ ได้แบบเรียลไทม์อีกด้วย และมีระบบป้องกันภัยบนเน็ตเวิร์กไร้สายประสิทธิภาพสูง และโฮมเน็ตเวิร์ก คอนโทรล

MCAfee VirusScan หลังจากที่หายเงียบไปนาน McAfee ก็กลับมาพร้อมกับตัวโปรแกรมที่ดูทะมัดทะแมงกว่าเดิม มีความสามารถในการป้องกัน แอดแวร์ และสปายแวร์ แบบอัตโนมัติ รวมทั้งตรวจจับสคริปต์ที่แอบฝังตัวซึ่งทำให้มีประสิทธิภาพการทำงานช้าลง มีฟังก์ชั่นอัพเดต Signature ของไวรัสและสปายแวร์ให้ทุกๆ วัน เพื่อป้องกันพีซีให้พ้นอันตรายก่อนล่วงหน้า รวมทั้งรองรับการทำงานร่วมกับ MSN, AOL, Yahoo และ Windows Messenger นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Script Stopper ช่วยปกป้องพีซีไวรัสที่มีพื้นฐานโครงสร้างการทำงานแบบสคริปต์ และจุดเด่นของ McAfee คือการให้บริการคำปรึกษาลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง ทุกๆวันผ่านอินเทอร์เน็ตของเว็บไซต์ macfeehelp.com

BitDefender จุดเด่นของโปรแกรมนี้คือ มีเอนจี้ในการสแกนไวรัสได้รับการการันตีจาก ICSA Lab, Virus Bullatin, Checkmark, CheckVir และ TUV รวมทั้งระบบป้องกันไวรัสจากอีเมล์ ที่สามารถทำงานกับโปรแกรมรับส่งอีเมล์ทุกชนิด และเทคโนโลยี HiVE สามารถจำลองสภาพแวดล้อมของพีซี เพื่อใช้ตรวจสอบโค้ดหรือโปรแกรมที่คาดว่าจะเป็นไวรัสก่อนที่ระบบปฏิบัติการ จะได้รับอันตรายซึ่งจะช่วยป้องกันก่อนที่จะมีการอัพเดตแพตเทิร์นของไวรัสออกมาเป็นเลเยอร์ ความปลอดภัยแบบใหม่ที่มีใน BitDefender เพียงเจ้าเดียว นอกจากนี้ยังมีระบบป้องกันที่เรียกว่า Peer-2-Peer Ap-plication ซึ่งใช้สำหรับโปรแกรมที่มีการแชร์ไฟล์ รวมทั้งโปรแกรมแชตต่างๆ ด้วย และมีราคาถูกเมื่อเทียบกับโปรแกรมป้องกันไวรัสตัวอื่นๆ

PANDA AntiVirus โปรแกรมแอนติไวรัสจาก Panda เป็นอีกตัวนึง ที่ไม่กินทรัพยากรของเครื่องมากเวลาทำงาน ซึ่งเป็นจุดเด่นของโปรแกรมเลยก็ว่าได้ ทำให้สามารถนำไปใช้กับเครื่องรุ่นเก่าๆ ได้อย่างสบาย มีฟังก์ชันการตรวจจับสปายแวร์ และมีระบบการป้องกันการติดตั้ง ที่มักแฝงมากับเว็บไซต์หลายแห่ง นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี TruPrevent เป็นชั้นของระบบความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นมา ซึ่งทำหน้าที่วิเคราะห์โค้ด หรือโปรแกรมที่คาดว่าจะเป็นอันตรายกับเครื่อง และจะสั่งบล็อกจนกว่าจะมีตัวอัพเดตไวรัสออกมา และระบบไฟล์วอลล์สนับสนุนการทำงานผ่าน Wi-Fi รวมทั้งยังมีความสามารถในการตรวจสอบฟิชชิ่งและเว็บไซต์ปลอม

ESET Nod32 โปรแกรมไวรัสชื่อดังที่หลายๆ เลือกใช้ โดยเฉพาะเวอร์ชั่นฟรี โปรแกรมนี้ถูกเขียนขึ้นด้วย ภาษาแอสแซมบลี้ทั้งหมด ทำให้ไฟล์ติดตั้งมีขนาดเล็กมาก และกินทรัพยากรระบบน้อยมาก ที่สำคัญทำงานได้คล่องตัวและรวดเร็วเป็นพิเศษ มีการแยกมอนิเตอร์การทำงานออกเป็น 5 ส่วน (AMON, DMON, EMON, IMON, NOD32) เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการโดยผู้ใช้ โดยเฉพาะเรื่องของการคอนฟิกค่าการใช้งานต่างๆ ที่เข้าถึงเมนูได้อย่างรวดเร็ว และอนุญาตให้ผู้ใช้ตั้ง Scheldule Task ของระบบได้ด้วยตนเอง เพื่อความยืดหยุ่นกับการทำงานแต่ละระบบ

AVG Anti-Virus โปรแกรมแอนติไวรัสในตระกูล AVG มีทั้งแบบฟรีเวอร์และเสียเงินซื้อ สำหรับเวอร์ชัน Professional ยังคงมีขนาดไฟล์ติดตั้งที่น้อยเหมือนเดิม รวมทั้งกินทรัพยากรของระบบน้อยมากอีกด้วย จุดเด่นของ AVG คือฟังก์ชัน Email Scanner ซึ่งใช้เวลาสแกนตรวจสอบอีเมล์ในระยะเวลาเพียงสั้นๆ โดยทำงานกับโปรแกรม MS Outlook ได้ตั้งเวอร์ชั่น95 ขึ้นไป นอกจากนี้ไฟล์อัพเดตของตัว Virus Signature มีขนาดเล็ก ทำให้ไม่ต้องเสียเวลารอนาน
ที่มา : computer.today ปักษ์แรก มี.ค.2551 ฉบับที่ 329

วันพุธที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2551

ด้วยเยาวชนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเกม ?


ผมได้ฟังข่าวกับการปิดตัวของ สวนสยาม ทะเลกรุงเทพ รู้สึกเสียดายที่เปิดบริการมาตั้งแต่ผมยังไม่ได้เกิด แถมค่าเข้าก็ถูกกว่าใครๆด้วย และทราบมาว่าที่นี่ขาดทุนมาทุกๆปี สาเหตุก็เพราะมาจากเครื่องเล่นที่ไม่ได้ตรวจสอบ หลังจากเกิดเหตุก็มีคนกลุ่มหนึ่งมาโวยวายแบบไร้ข้อมูลและวิจารณ์กันอย่างโต้งๆ แต่สาเหตุที่แท้จริงนั้นไม่ใช่มาจากเครื่องเล่นที่เสื่อมสภาพแต่เป็นเด็กๆที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์เท่านั้น
"วันเกิดเหตุบุตรชายกับเพื่อนๆ รุ่นเดียวกัน 5 คน กับผู้ใหญ่อีก 1 คน ไปเที่ยวกันตั้งแต่บ่าย วนเวียนเล่นแต่สไลเดอร์หลายรอบ บุตรชายเล่าให้ฟังว่า ระหว่างสไลด์ลงมามีเด็กโตคนหนึ่งใช้ 2 มือเหนี่ยวขอบราง ขืนร่างหยุดค้างไว้ ทำให้เด็กคนอื่นๆที่ตามกันมารวมทั้งลูกชายตนติดคาอยู่บนรางเป็นสิบๆคน ตอนนั้นทุกคนต่างแหกปากส่งเสียงโหวกเหวกโวยวาย พร้อมกับนั่งขย่มลงบนรางอย่างสนุกสนาน จนทำให้รางสไลเดอร์แยกหลุดออกจากกัน เด็กทั้งกลุ่มร่วงหลุดไหลลงไปกระแทกพื้นด้านล่างได้รับบาดเจ็บไปตามๆ กัน" (อ้างอิงจากไทยรัฐ 16 มกราคม 2551)
และยิ่งอ่านข่าวจากประเทศจีนถึงเรื่องการเอาจริงเอาจังเรื่องเกมออนไลน์สำหรับเยาวชน พูดถึง "ทางรัฐบาลจีนได้ออกมาเคลื่อนไหวการจับกุมที่พยายามนอกกรอบ ล่าสุดได้จับกุมเรื่องการตั้งเซิฟเวอร์เถื่อน, เรตติ้งจากเกม และความผิดจากร้านอินเตอร์เนท สาเหตุที่ออกมาจับกุมและลงโทษเอาจริงเอาจังก็เพราะ รัฐบาลจีนเป็นห่วงกับยอดผู้เล่นที่สูงขึ้นและการติดเกมโดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน (ซึ่งมีกฏหมายลงโทษไว้แล้ว) ล่าสุดตำรวจจากภาคใต้ของประเทศจีนในรัฐ Shenzhen ได้จับกุมร้านอินเตอร์เนทจำนวน 563 ร้าน ในข้อหาบริการผู้ใช้ที่ต่ำกว่าอายุจากที่เกมได้กำหนดไว้, การตั้งเซิฟเวอร์เถื่อน และ การบริการเกินเวลาสำหรับเยาวชนจากที่กำหนดไว้ ทำให้มีการแบนชื่อผู้ใช้เกือบ 5000 กว่ารายชื่อ และยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ถึง 1,407 เครื่อง และการจับกุมก็ยังดำเนินต่อไป" (อ้างอิงจาก gamemun.com 21 มกราคม 2551)
เรื่องดังกล่าวก็มีผลกับเกมออนไลน์มีอยู่มากมาย ไม่ว่าเรื่องการเปิดโปรแกรมช่วยเหลือในเกม, การตั้งเซิฟเวอร์เถื่อน, การจำกัดอายุผู้เล่น ล้วนเป็นการกระทำของผู้เล่นทั้งหมด ในเมื่อผู้เล่นกลุ่มหนึ่งพยายามนอกกรอบ ความผิดที่ว่าก็จะถูกโยนไปยังบริษัทผู้ให้บริการเกม เช่นเดียวกันกับ ผู้บริหารของสวนสยาม อย่างเช่นในกรณีการเปิด Bot อย่างล้นหลาม เป็นต้น ถ้าเอาใจของเราไปใส่ในใจของเขา เขาก็จะคิดว่ามันหมดวิถีทางที่จะแก้ไข ขนาดเรียกบริษัทแม่ก็ยังทำอะไรไม่ได้ ข้อครหาที่ว่าจะหมดลงและหยุดดำเนินการแก้ปัญหาและภาวนาอยู่ลึกๆพร้อมกับรอความหวัง ถ้ามองในเรื่องบริษัทที่นำเข้าเกม ก็คงคิดว่า ในเมื่อปัญหาเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา มันก็ขึ้นอยู่กับเจตนาของผู้เล่นเท่านั้น ความผิดที่แท้จริงก็คือผู้เล่นคนๆหนึ่งนั่นเอง มีเพียงตัวเลือกเพียง 2 อย่างว่าอยากจะเล่นแบบธรรมดาที่คนเขาเล่นกันหรือจะเล่นแบบนอกกรอบกันแน่ เพราะทุกๆคนก็มีอุดมการณ์กันทุกๆคน
และในกรณีจากรัฐบาลจีนที่เอาจริงเอาจังกับเยาวชนที่ติดเกมออนไลน์ ถ้ามองในเมืองไทยถือว่าสอบตกแล้วตกอีกจนไม่จบไม่สิ้น เพราะไม่มีใครมาดูแลเรื่องนี้แม้แต่นิดเดียว ตั้งแต่รัฐบาลชุดก่อนที่พยายามแก้ไขปัญหาโดยจำกัดเวลาเกมออนไลน์ตั้งแต่ 6 โมงเช้า - 4 ทุ่ม สำหรับอายุต่ำกว่า 18 ปี แต่ปัญหาปลีกย่อยกลับคลุมเครือ แต่การวางกรอบก็ทำออกมาอย่างเห็นได้ชัด แต่สิ่งที่ผมไม่ชอบเลยคือ "ข้ออ้าง" เช่นเสียเวลาและเสียเงินการสมัคร และยิ่งเป็นคนที่ติดเกมอาจจะโวยเรื่องเวลายิ่งสำคัญกว่าการเรียน ขณะเก็บเลเวลเพื่อก้าวไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต ผมมองว่ามันถึงเวลาที่นำกรอบกฏเกณฑ์มาใช้ใหม่อีกครั้งหนึ่งเสียแล้ว ตั้งแต่กรอบที่ว่าหายไป ผู้เล่นโดยเฉพาะเยาวชนเริ่มแพร่หลายกับเกมออนไลน์สูงขึ้น คงได้เพียงหวังว่ารัฐบาลชุดใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้จะให้ความสำคัญเรื่องอินเตอร์เนตมากน้อยเพียงใด
อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นเองก็ควรมีความรับผิดชอบและเคารพกฏกติกากับเกมที่นำเข้ามาบ้าง ยิ่งให้เกิดขึ้นเลวร้ายมากเท่าไร ถ้ารัฐบาลเข้ามาแก้ไขปัญหาให้ ก็อาจจะเสียเวลาเหนื่อยที่ออกมาวิจารณ์ว่ากระทรวงนี้เผด็จการเสียเหลือเกิน ว่าแต่ว่าด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็กๆนี้มันช่างน่ากลัวเสียจริงๆ

วันอังคารที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2551

ความปลอดภัยทั่วไป


สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ
1. เกิดจากผู้ปฏิบัติงาน
2. เกิดจากสภาพแวดล้อมในการทำงาน
3. เกิดจากสภาพของเครื่องมือ เครื่องจักร และอุปกรณ์ต่างๆ


1. สาเหตุที่เกิดจากผู้ปฏิบัติงาน
อุบัติเหตุจากผู้ปฏิบัติงาน อาจจะเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้ คือ
- การแต่งกายไม่เหมาะสม เช่น ชุดที่สวมใส่, การสวมเครื่องประดับ ฯลฯ
- สภาพร่างกายไม่พร้อมที่จะปฏิบัติงาน เช่น ร่างกายอ่อนเพลียแต่ยังฝืนปีนบันไดขึ้นไปเก็บของ ฯลฯ
- การใช้เครื่องมือไม่ถูกกับงาน เช่น นำไขควงไปใช้แทนสกัด ฯลฯ
- ไม่ชอบเก็บของ ซึ่งเป็นลักษณะนิสัยส่วนตัว เช่น ใช้เครื่องมือแล้วไม่เก็บ อาจจะเดินไปเหยียบทำ

ให้ลื่นล้มได้ ฯลฯ
- ไม่มีประสบการณ์ในการใช้เครื่องมือ เช่น ซื้อเลื่อยมาใหม่ ไม่อ่านคำแนะนำการใช้ อาจทำให้เกิด

อุบัติเหตุได้ ฯลฯ

- ไม่เห็นความจำเป็นต่อความปลอดภัย เช่น ที่โรงฝึกงานกำหนดให้สวมหมวกนิรภัย แต่ไม่สวมอาจ

จะมีเศษอะไรหล่นใส่ศีรษะ ทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ ฯลฯ

2. สาเหตุที่เกิดจากสภาพแวดล้อม
อุบัติเหตุจากสภาพแวดล้อม อาจจะเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้ คือการจัดสภาพภายในโรงฝึกงาน

ไม่เรียบร้อย เช่น การวางสิ่งของ เครื่องมือเกะกะ ฯลฯ

- ระบบแสงสว่างภายในโรงฝึกงานไม่เพียงพอ
- ระบบระบายอากาศในโรงฝึกงานไม่ดีพอ
- ระบบการป้องกันเสียงในโรงฝึกงานไม่ดีพอ
- การกำหนดสถานที่ภายในโรงฝึกงาน ไม่มีการวางแผนที่ดี
- การจัดเส้นทางการขนถ่ายในโรงฝึกงานไม่ดีพอ

3. สาเหตุที่เกิดจากสภาพของเครื่องมือ เครื่องจักร และอุปกรณ์ต่างๆ
อุบัติเหตุจากเครื่องมือ เครื่องจักร และอุปกรณ์ต่าง อาจจะเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้ คือ
- สภาพของเครื่องมือ เครื่องจักร และอุปกรณ์ต่างๆ ไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน
- อุปกรณ์ป้องกันอันตรายชำรุด


การป้องกันการเกิดอัคคีภัย
การเกิดอัคคีภัยจะทำความเสียหายให้กับตนเอง และผู้อื่น เพราะฉะนั้นผู้เรียนควรจะศึกษาเกี่ยวกับการป้องกันการเกิดอัคคีภัย ชนิดของการอัคคีภัย ว่าจะต้องใช้อะไรในการดับไฟที่เกิดขึ้น ซึ่งมีการแบ่งชนิดของอัคคีภัยอยู่ 4 ประเภท คือ ประเภท A ประเภท B ประเภท C ประเภท D

ประเภท A หมายถึง อัคคีภัยที่เกิดจากวัสดุที่เป็นประเภท ไม้, กระดาษ, เสื้อผ้า ฯลฯ วัสดุที่ใช้ใน

การดับเพลิงคือ “น้ำ”

ประเภท B หมายถึง อัคคีภัยที่เกิดจากวัสดุไวไฟ เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง และก๊าซที่ติดไฟทุกประเภท

วัสดุที่ใช้ในการดับเพลิง คือ “สารเคมีต่างๆ เช่น โซเดียมไบคาร์บอเนต,

แมกนีเซียมคาร์บอเนต รวมทั้งโฟมหรือฟองเคมี ฯลฯ

ประเภท C หมายถึง อัคคีภัยที่เกิดจากอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิด วัสดุที่ใช้ในการดับเพลิง คือ

“น้ำยาเหลวระเหยชนิดคาร์บอนเทตระคลอไรด์” ข้อควรระวังคือ จะต้องระวัง

โดนไฟฟ้าดูด ขณะปฏิบัติหน้าที่ดับเพลิง

ประเภท D หมายถึง อัคคีภัยที่เกิดจากโลหะที่มีคุณสมบัติในการติดไฟ เช่น โซเดียม โปแตสเซียม

แมกนีเซียม ฯลฯ วัสดุที่ใช้ในการดับเพลิงประเภทนี้ คือ “สารดับเพลิงประเภท

ใช้สารเคมีชนิดผสมด้วยโซเดียมไบคาร์บอเนต, แมกนีเซียมคาร์บอเนต,

แกรไฟต์พิเศษ ฯลฯ